5 เทรนด์การลงทุนปี 2025 ที่นักลงทุนไม่ควรพลาด
5 เทรนด์การลงทุนปี 2025 ที่น่าจับตามอง
เทรนด์การลงทุน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจเลือกสินทรัพย์การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนเห็นทิศทางตลาดการลงทุนที่จะเกิดขึ้น ทำให้สามารถเฝ้าติดตามผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
สำหรับในปี 2025 ที่ใกล้จะถึงนี้ มีเทรนด์การลงทุนอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราสรุป 5 เทรนด์การลงทุนที่น่าจับตามองมาให้แล้ว
- New Energy
New Energy หรือ พลังงานใหม่ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพลังงานใหม่ที่ว่านี้ หมายถึง พลังงานที่ได้จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และ พลังงานน้ำ ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนช่วยลดการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม
ในปัจจุบันนี้ ความต้องการพลังงานสะอาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต่างมีนโยบายเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน พลังงานใหม่ รวมถึงพลังงานสะอาด จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การลงทุนที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในปี 2025
ตัวอย่างสินทรัพย์การลงทุน
- หุ้นบริษัทพลังงานหมุนเวียนในตลาดต่างประเทศ เช่น Sunpower และ Vestas Wind Systems
- ETF พลังงานสะอาด เช่น iShares Global Clean Energy ETF และ Invesco Solar ETF
- Biotechnology
Biotechnology หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ คือ หนึ่งในเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
โดย “เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)” คือ การนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับสิ่งมีชีวิต เพื่อให้เป็นประโยชน์กับมนุษย์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ การเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับตั้งแต่ยุคการระบาดของ COVID-19 ที่มีการพัฒนาวัคซีนและยารักษา คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับเทคโนโลยีชีวภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับในแง่การลงทุนแล้ว พบว่าดัชนีหุ้นกลุ่ม Biotechnology มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะลงทุนในหุ้นบริษัทชีวเภสัชกรรม อย่าง Moderna, Pfizer, และ BioNTech แล้ว นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในเทคโนโลยีชีวภาพอย่าง T-BIOTECH ของธนาคารกสิกร
- AI Technology
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) คือ เทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกในทุกด้าน จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมสินทรัพย์การลงทุนในเทคโนโลยี AI นั้นมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
AI เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่มีการประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การผลิต การขนส่ง หรือ แม้แต่การให้บริการลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้บริษัทที่นำ AI เข้ามาปรับใช้สามารถแข่งขันได้ดี และมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน
ตัวอย่างสินทรัพย์การลงทุน อาทิ
- หุ้นบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำ อย่าง Microsoft และ Google
- ETF เทคโนโลยี AI เช่น Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF, ROBO Global Robotics and Automation Index ETF
- หุ้นของบริษัทที่ผู้ผลิตเทคโนโลยีเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ Advanced Micro Devices
- Fintech
“การเงิน” ก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ จนเกิดเป็นธุรกิจที่เรียกว่า “เทคโนโลยีทางการเงิน” หรือ Financial Technology หรือ Fintech
โดย Financial Technology หรือ Fintech คือ การใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงบริการทางการเงิน ทำให้เข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำกว่าเดิม ซึ่งจะครอบคลุมบริการต่างๆ ตั้งแต่การชำระเงิน ทำประกัน การซื้อสินค้าและบริการ ไปจนถึงการบริหารความมั่งคั่ง แน่นอนว่าด้วยความต้องการบริการทางการเงินที่สะดวกสบาย ประกอบกับมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ Fintech จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ซึ่งในอนาคตนี้ อาจมีโครงการ Fintech ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาปฏิวัติการเงินในอนาคตก็เป็นได้
ในปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนกองทุนรวม Fintech ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ หรือจะเลือกลงทุนในหุ้นบริษัท Fintech ชั้นนำ อย่าง PayPal, Square, และ Visa ก็ได้เช่นกัน
- Digital Token
โทเคนดิจิทัล (Digital Token) คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่นำสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบของเหรียญโทเคน โดยผู้ถือครองเหรียญสามารถนำโทเคนดิจิทัลมาซื้อขายผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ผู้ออกโทเคนกำหนดด้วย เช่น ส่วนลด สิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่นำมาแปลงเป็นโทเคน และอื่นๆ ตามรายละเอียดของโครงการที่ลงทุน
โทเคนดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นในต่างประเทศ เพราะนอกจากจะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนด้วยต้นทุนที่น้อย แต่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงแล้ว โทเคนดิจิทัลยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ที่หาลงทุนได้ยาก เช่น อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม งานศิลปะ หรือ ที่ดิน ทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้องจากสินทรัพย์เหล่านั้นด้วย
นอกจากนี้ โทเคนดิจิทัลเป็นการลงทุนที่มีความโปร่งใส ด้วยธุรกรรมเข้ารหัสบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ปลอดภัย ซึ่งในประเทศไทยเอง โทเคนดิจิทัลก็เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการกำกับดูแลโดยสำนักงานก.ล.ต. อีกด้วย
ในปัจจุบันนี้ นักลงทุนสามารถลงทุนในโทเคนดิจิทัลได้ผ่านทาง ICO Portal หรือ ผู้ออกโทเคนดิจิทัลที่ได้รับการเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. หรือ หากเป็นธุรกิจที่ต้องการระดมทุน ก็สามารถติดต่อ ICO Portal เพื่อรับทราบเงื่อนไขในการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนได้เช่นกัน
สำหรับประเทศไทยขณะนี้ Kubix เป็นหนึ่งใน ICO Portal ที่ได้รับการเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. ซึ่งในเร็วๆ นี้ Kubix เองก็กำลังจะมีโปรเจกต์การลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจเปิดเสนอขายแก่นักลงทุน ท่านใดที่ไม่อยากพลาดข่าว สามารถติดตาม Kubix ได้ในช่องทางต่างๆ และอย่าลืมเปิดบัญชีกับ Kubix เอาไว้ เพื่อไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุนในโทเคนดิจิทัล
บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการลงทุน นักลงทุนโปรดศึกษาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
โทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ :
➡ LINE Official: @Kubix (https://lin.ee/Jub58gd)
➡ Facebook: Kubix.DigitalAsset (www.facebook.com/Kubix.DigitalAsset)
➡ Website: www.kubix.co
สนใจปรึกษาเรื่องการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัล ติดต่อได้ที่ contact.us@kubix.co