Tokenization เมื่อสถาบันการเงินใหญ่ทั่วโลกผลักดัน Token สู่อนาคตโลกการเงิน

By Kubix

Tokenization เมื่อสถาบันการเงินใหญ่ทั่วโลกผลักดัน Token สู่อนาคต 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในหลายๆ อุตสาหกรรม ในบางครั้งถึงขั้นพลิกโฉมวงการดังกล่าวไปเลยทีเดียว หนึ่งในวงการที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุดคือ สถาบันทางการเงิน ที่ระบบดิจิทัลมีส่วนช่วยในการพัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนทำให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะการทำ Tokenization

ตัวอย่างล่าสุดของระบบ Tokenization ที่ช่วยแปลงสินทรัพย์เข้าสู่โลกดิจิทัลคือ BlackRock ที่ได้มีการประกาศเปิดตัวกองทุนโทเคนแรกบนบล็อกเชน Ethereum ที่มีชื่อว่า BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของตลาดและเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนของอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม เพื่อทำการกำหนดทิศทางทางการเงินครั้งใหม่ของโลก

ยังมี Case Study เกี่ยวกับ Tokenization อีกมากที่แสดงให้เห็นว่า มีส่วนช่วยพลิกโฉมสถาบันการเงินได้ ทั้งในสังคมโลก และการขับเคลื่อนต่อของสังคมไทย ในบทความนี้เราจะมาถอดบทเรียน รวมถึงความท้าทายใหม่ ๆ ของโลกสถาบันการเงินต่อระบบดิจิทัลเพื่อให้การลงทุนของคุณราบรื่นยิ่งกว่าเดิม

ทำไมสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่ จึงก้าวเข้ามาสู่โลก Tokenization

ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีกำลังพลิกโฉมทุกภาคส่วน การทำ Tokenization หรือการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลกลายเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงเป็นอย่างมากในแวดวงการเงินและการลงทุน

จนอาจจะบอกได้ว่า Tokenization กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการการเงินและการลงทุนให้กับสถาบันการเงินได้อย่างน่าสนใจ แล้วทำไมสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่จึงก้าวเข้ามาสู่โลกของ Tokenization

เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน (Increased liquidity) 

การทำ Tokenization เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น เพราะอาศัยการแปลงโทเคนเข้ามาทำให้การลงทุนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น อย่างโปรเจ็กต์ RealT ที่มีการสร้างโทเคนอสังหาริมทรัพย์สำหรับที่อยู่อาศัย เข้ามาช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงมีความปลอดภัย เพิ่มรประสิทธิภาพของตลาดการลงทุน

เพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสทางการเงิน (Security and transparency) 

เนื่องจากการทำ Tokenization เป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน เข้ามาใช้ ซึ่งมีความปลอดภัยขั้นสูง เพราะมีการเก็บข้อมูลที่จะต้องเข้ารหัสข้อมูลเอาไว้อย่างเป็นระบบ ซอฟต์แวร์สำหรับการทำงานมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ข้อมูลที่ถูกบันทึกเอาไว้ ยังไม่สามารถเขียนทับลงไปได้ และมีการบันทึกลงบล็อกเชนตามลำดับเวลาอีกด้วย ทำให้การเข้ามาในส่วนนี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสทางการเงิน เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูลได้อย่างดี

เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ต้นทุน (Cost efficiency) 

การทำ Tokenization มีส่วนช่วยอย่างมากในการลดต้นทุนในระยะยาว เนื่องจากทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทำให้ประหยัดทั้งเวลา และทรัพยากรในการทำงาน นอกเหนือจากนั้น ระบบ Tokenization ยังมีส่วนช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงตลาด และค่าธรรมเนียมทางการเงิน ทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้เงินเริ่มต้นที่ต่ำลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน

เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรม (Faster transactions) 

จากความรวดเร็วในการเก็บข้อมูล ลดตัวกลาง และมีความโปร่งใส การทำธุรกรรมของโทเคนดิจิทัลบนระบบบล็อกเชนนั้น จะช่วยลดความยุ่งยาก และเพิ่มความรวดเร็วได้เป็นอย่างมาก ยังไม่นับรวมในส่วนของการทำ Smart Contract ที่ดำเนินการโดยอัตโนมัติทันทีที่เงื่อนไขครบถ้วน ทำให้การ Tokenization เป็นอีกหนึ่งกระบวนการสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในปัจจุบัน

Case Studies:  

หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุดคือ สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง JPMorgan ที่ได้จับมือกับ KBank ประเทศไทย ที่ร่วมมือในโปรเจ็กต์บล็อกเชนสำหรับธุรกรรมสำหรับลูกค้านิติบุคคลที่มีชื่อว่า Carina โดยจะเป็นการให้บริการเงินบาทอิเล็กทรอนิกส์ ที่ให้บริการภายใต้ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดระยะเวลาในการทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมง ให้เหลือเพียง 5 นาที และสามารถจ่ายเงินข้ามประเทศได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้แล้ว HSBC อีกหนึ่งธนาคารชั้นแนวหน้าของฮ่องกง ได้มีการเปิดตัว Gold Token โดยมุ่งเน้นไปยังสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น ทองคำ และพันธบัตร HSBC ซึ่ง Gold Token ของ HSBC นั้น จะใช้งานบนแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง HSBC Orion ของธนาคาร และเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ารายย่อยตัวแรกของฮ่องกง ที่มีการนำเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เข้ามาใช้งาน

รวมไปถึง Goldman Sachs หนึ่งในกลุ่มธนาคารของสหรัฐอเมริกา ได้มีการวางแผนเปิดตัวโปรเจ็กต์ Tokenization ที่แปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคนดิจิทัล เนื่องจากมีความสนใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มกองทุนในตลาดหนี้ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพื่อเพิ่มโอกาสของธนาคารเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย

หรือจะเป็นมุมมองของ BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เราได้เกริ่นไปข้างต้น ซึ่งได้ให้มุมมองในการทำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ว่าการทำ Tokenization เป็นโอกาสสำคัญสำหรับการขยายตัวในอุตสาหกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่จะสามารถทำเทคโนโลยีเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดทุน และเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนไปยังกลุ่มนักลงทุนต่างๆ ได้มากขึ้น

ความท้าทายและการออกกฎหมายเพื่อรองรับ Tokenization 

สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดของฝั่งสินทรัพย์ดิจิทัล มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้มีการวางแผนเพื่อปรับปรุง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับการย้ายโทเคนดิจิทัลมากำกับดูแลภายใต้ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ รวมไปถึงการปรับปรุง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้แล้ว ก.ล.ต. เตรียมอนุมัติให้ Thai ESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน สามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Investment Token ได้ ซึ่งการลงทุนนั้น จะต้องเป็นการลงทุนในธุรกิจที่ส่งเสริมความยั่งยืน มีรูปแบบการทำธุรกิจ ป็นแพลตฟอร์ม หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมความยั่งยืน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567

ถือได้ว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย ที่เปิดกว้างในด้านสินทรัพย์การลงทุน และมีการผลักดันการนำสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Invesment Token และ Utility Token เข้าไปอยู่ใน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ได้สิทธิทางภาษีอย่างเท่าเทียมกับหลักทรัพย์ประเภทอื่น ๆ

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลงทุน หรือวางแผนสำหรับการระดมทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถติดต่อสอบถาม และขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำโทเคนไปใช้งานได้ที่ Kubix

 

สนใจปรึกษาเรื่องการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัล ติดต่อได้ที่ contact.us@kubix.co 

 

*โทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้


ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ : 
➡ LINE Official: @Kubix (https://lin.ee/Jub58gd)
➡ Website: https://www.kubix.co

scroll top iconBack to top