ทำความรู้จัก blockchain มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร
Blockchain มีกี่ประเภท? ทำความรู้จักกันให้ดี ก่อนเลือกใช้งาน
ในทุกวันนี้ การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้งาน ถือเป็นตัวช่วยในการป้องกันข้อมูลและเพิ่มความสะดวกในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเราหยิบ blockchain เข้ามาใช้งานได้เหมาะสมกับความต้องการของเรานั่นเอง ซึ่งคำถามที่ว่า blockchain มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีอย่างไร และควรจะต้องเลือกใช้งานอย่างไรให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณ วันนี้เรามาไขคำตอบไปด้วยกัน
จุดเริ่มต้นของบล็อกเชน
ก่อนจะไปดูว่า blockchain มีกี่ประเภทนั้น เราต้องมาทำความเข้าใจจุดเริ่มต้นของ blockchain กันแบบย่อ ๆ ก่อนว่าบล็อกเชนเริ่มต้นขึ้นมาได้อย่างไร
บล็อกเชนเริ่มต้นขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 โดยนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่มีการจดสิทธิบัตรต้นไม้ Merkle ที่เป็นโครงสร้างวิทยาการคอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บข้อมูลด้วยการเชื่อมโยงบล็อกเข้าด้วยกันโดยใช้รหัส และในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ก็ได้มีการพัฒนาและเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนี้ ยังมีการพัฒนาในด้านของรูปแบบของบล็อกเชนให้ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น
Blockchain มีกี่ประเภท
มาถึงข้อมูลที่ว่า blockchain มีกี่ประเภทกันแล้ว โดยทั่วไป บล็อกเชนมีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน บางแห่งก็ว่ามี 3 ประเภท ซึ่งทั้ง 4 ประเภทนั้น มีทั้ง Public Blockchain, Private Blockchain, Consortium Blockchain และ Hybrid Blockchain นั่นเอง
Public Blockchain
Public Blockchain หรือ เครือข่ายบล็อกเชนแบบเปิดสาธารณะ เป็นบล็อกเชนที่เป็น open network ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ ทั้งในด้านของการอ่าน แก้ไข และตรวจสอบความถูกต้อง ส่วนใหญ่มักใช้บล็อกเชนสาธารณะในการแลกเปลี่ยนและขุดสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ
- ข้อดีของ Public Blockchain
- เป็นอิสระจากองค์กร
- ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์เอง สามารถเช่าและจ่ายตามที่ใช้งานจริง
- ความโปร่งใสของเครือข่าย ตราบใดที่ผู้ใช้ปฏิบัติตามโปรโตคอลและวิธีการรักษาความปลอดภัยอย่างพิถีพิถัน บล็อกเชนสาธารณะส่วนใหญ่ก็จะปลอดภัย
- ข้อเสียของ Public Blockchain
- ช้าและสิ้นเปลือง เพราะมีการรับส่งข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก
- ข้อมูลบน Public Blockchain จะเป็นสาธารณะ เปิดเผยต่อสาธารณะชน ไม่มีความเป็นส่วนตัว
Private Blockchain
Private Blockchain หรือ เครือข่ายบล็อกเชนแบบปิด เป็นบล็อกเชนที่สามารถเข้าร่วมได้เฉพาะบุคคลที่ได้รับคำเชิญหรือได้รับการอนุญาตเท่านั้น โดยจะมีการกระจายศูนย์เพียงบางส่วน เหมาะกับการใช้งานแบบองค์กร หรือธุรกิจที่ต้องการใช้บล็อกเชนสำหรับงานภายในเท่านั้น
- ข้อดีของ Private Blockchain
- สะดวก รวดเร็ว
- ข้อมูลถูกจัดเก็บเป็นความลับ
- ควบคุมและกำหนดระดับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล ความปลอดภัย การอนุญาต ได้
- ข้อเสียของ Private Blockchain
- ไม่มีการกระจายอำนาจ มีผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวคือผู้ที่ดูแลเครือข่าย
Consortium Blockchain
Consortium Blockchain เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นการนำข้อดีของ Public Blockchain กับ Private Blockchain มารวมดัน โดยมีองค์กรทำหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลบล็อกเชน และกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล โดยมีการใช้งานร่วมกันในหลายๆ องค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อสร้างความร่วมมือ และได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
- ข้อดีของ Consortium Blockchain
- ข้อมูลยังมีความเป็นส่วนตัว ไม่หาย หรือถูกแก้ไขดัดแปลงได้ง่าย
- ไม่ต้องแบกรับต้นทุนไว้แต่เพียงผู้เดียว
- สามารถควบคุมและกำหนดระดับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล ความปลอดภัย การอนุญาต ได้
- มีความปลอดภัย
- ข้อเสียของ Consortium Blockchain
- ไม่คล่องตัวในการปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งาน เนื่องจากต้องผ่านความเห็นชอบจากส่วนกลาง
- มีความโปร่งใสน้อยกว่า Public Blockchain
Hybrid Blockchain
Hybrid Blockchain เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่นำเอารูปแบบการทำงานของเครือข่ายบล็อกเชนแบบปิดและแบบสาธารณะเข้ามาใช้ร่วมกัน โดยสามารถตั้งค่าระบบแบบปิดเพื่อใช้สิทธิ์ในการได้รับการอนุญาต ควบคู่กับระบบแบบเปิดได้ ซึ่งจะมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะ และเปิดให้สาธารณะเข้าถึงข้อมูลส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย
- ข้อดีของ Hybrid Blockchain
- ปกป้องความเป็นส่วนตัว แต่ยังอนุญาตให้บุคคลที่สามสามารถเข้าถึงข้อมูลเปิดได้
- มีความปลอดภัย
- สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว และประหยัด
- ข้อเสียของ Hybrid Blockchain
- ไม่มีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนถูกปิดเอาไว้
- ไม่มีแรงจูงใจให้มีส่วนร่วมในเครือข่ายบล็อกเชนรูปแบบนี้
ความแตกต่างของบล็อกเชนแต่ละประเภท
Public Blockchain | Private Blockchain | Consortium Blockchain | Hybrid Blockchain | |
---|---|---|---|---|
ข้อดี |
|
|
|
|
ข้อเสีย |
|
|
|
|
ตัวอย่างการใช้งาน |
|
|
|
|
หลังจากที่รู้กันแล้วว่า blockchain มีกี่ประเภท ทีนี้ การเลือกใช้งานบล็อกเชนนั้น ควรที่จะเลือกให้ตอบโจทย์และเหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานขององค์กรเป็นหลัก เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นมากที่สุด
อ้างอิง
https://techsauce.co/tech-and-biz/three-different-types-of-blockchain
https://www.techtarget.com/searchcio/feature/What-are-the-4-different-types-of-blockchain-technology