รู้ไว้ก่อนลงทุน! พอร์ตลงทุนคืออะไร เริ่มจัดพอร์ตอย่างไรดี?

โดย Kubix

รู้ครบ! พอร์ตลงทุนคืออะไร จัดพอร์ตอย่างไรให้เหมาะกับการลงทุนในยุคปัจจุบัน?

การลงทุน ไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องมือต่อยอดเงินเก็บ เพื่อเป้าหมายต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในยามเศรษฐกิจผันผวนได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยงรวมอยู่ในทุกการตัดสินใจ แต่การเข้าใจการจัดพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมก็สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เช่นกัน

แล้วนักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจัดพอร์ตลงทุนอย่างไรดี มีเรื่องไหนที่ต้องพิจารณาและระวังเป็นพิเศษบ้าง มาทำความเข้าใจทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเริ่มจัดพอร์ตลงทุนไปพร้อมกันเลย

เข้าใจพอร์ตลงทุนกันก่อน

พอร์ตลงทุน (Investment Portfolio) คือ การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่ 2 หลักทรัพย์ขึ้นไป ด้วยจุดประสงค์ที่เป็นไปตามเป้าหมายการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยง การเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน ระยะเวลาในการลงทุน ไปจนถึงกลยุทธ์ในการลงทุนอื่น ๆ ตามที่นักลงทุนต้องการ

หากยังมองไม่เห็นภาพ ลองนึกภาพตามง่าย ๆ ถึงเป้าหมายการลงทุนที่ต้องการ เช่น สำหรับใครที่ต้องการลงทุนเพื่อการเกษียณ เพื่อเป็นรายรับสำหรับวันที่ไม่ได้ทำงานแล้ว สามารถเลือกจัดพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่สร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอได้ อาทิ การลงทุนในกองทุนรวมร่วมกับตราสารหนี้ หรือเลือกลงทุนในกองทุนรวมหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน

แต่สำหรับใครที่เน้นการลงทุนระยะสั้น เพื่อเป้าหมายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างการซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือซื้อทรัพย์สินอื่น ๆ ตามเป้าหมายที่ต้องการ ก็สามารถจัดพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง แต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะเวลาไม่นาน เช่น หุ้น กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง ไปจนถึงโทเคนดิจิทัล 

นักลงทุนมือใหม่เริ่มจัดพอร์ตลงทุนอย่างไรดี?

จริงอยู่ว่าไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบไหนก็ล้วนมีความเสี่ยงรวมอยู่ด้วยเสมอ แต่อย่างไรก็ดี การเข้าใจพื้นฐานการจัดพอร์ตที่เหมาะสมนี้สามารถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบริหารความเสี่ยงของการลงทุนได้เช่นกัน

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่เคยก้าวเข้าสู่สนามการลงทุนมาก่อน หากยังไม่ชัวร์ว่าจะเริ่มจัดพอร์ตลงทุนอย่างไร ลองมาทำตาม 4 ขั้นตอนพื้นฐานง่าย ๆ นี้กัน

  1. กำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน

การกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนถือเป็นการกำหนดทิศทางการลงทุนให้กับพอร์ตลงทุนของตัวเอง เพราะหากเป้าหมายการลงทุนไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก นอกจากจะทำให้หลงทางในสนามการลงทุนแล้ว ยังอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุนและทรัพย์สินที่มีอยู่ได้เช่นกัน

หากยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มกำหนดเป้าหมายให้กับพอร์ตลงทุนอย่างไรดี ลองมากำหนดเป้าหมายตามหลัก S.M.A.R.T. ซึ่งแต่ละตัวอักษรจะมีความหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • S - Specific หรือ ความเจาะจง
  • M - Measurable หรือ สามารถวัดผลได้
  • A - Accountable หรือ มีวิธีที่ทำให้เป้าหมายสำเร็จได้
  • R - Realistic หรือ สามารถทำได้จริง
  • T - Time Bound หรือ มีการกำหนดเวลาที่เหมาะสม

หากยังนึกภาพไม่ออกว่าจะปรับใช้การตั้งเป้าหมายการลงทุนนี้อย่างไร ลองมาดูตัวอย่างจาก “เรื่องของพี่จูน” กัน

พี่จูนอายุ 25 ปี เป็นพนักงานประจำเงินเดือน 30,000 บาท ไม่มีภาระหนี้สิน ตอนนี้มีเป้าหมายต้องการลงทุนเพื่อเก็บเงินดาวน์บ้านหลังแรกให้ได้ตอนอายุ 35 ปี เมื่อคำนวณค่าดาวน์บ้านร่วมกับอัตราการเงินเฟ้อแล้วพบว่า พี่จูนจะต้องใช้เงินทั้งหมด 3 ล้านบาท ในการดาวน์บ้าน

พี่จูนเคยมีประสบการณ์ลงทุนมาก่อน จึงเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง โดยกำหนดเงินลงทุนอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน และเก็บฝากประจำ 5,000 บาททุกเดือน

หากแบ่งเรื่องของพี่จูนตามการสร้างเป้าหมายการลงทุนแบบ S.M.A.R.T. จะเป็นไปตามรายละเอียด ดังนี้

  • S - Specific มีเป้าหมายต้องการดาวน์บ้านหลังแรก
  • M - Measurable ต้องลงทุนและเก็บเงินให้ได้ 3 ล้านบาท
  • A - Accountable เลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงปานกลาง-สูง และเงินฝากประจำ
  • R - Realistic หลังหักเงินลงทุนและเงินฝากแล้ว พี่จูนยังเหลือเงินอีก 15,000 บาท ซึ่งเพียงพอกับค่าใช้จ่ายรายเดือนของพี่จูนทั้งหมด
  • T - Time Bound ใช้เวลาลงทุนและเก็บเงินดาวน์บ้านภายใน 10 ปี

  1. พิจารณาความเสี่ยงที่รับไหว

หลังจากที่กำหนดเป้าหมายการลงทุนได้อย่างชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การพิจารณาระดับความเสี่ยงที่รับไหวในการลงทุน โดยการพิจารณาระดับความเสี่ยงที่รับไหวนี้ สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาจากภาระทางการเงินที่มีอยู่ อายุ ความมั่นคงของอาชีพการงาน ความจำเป็นในแต่ละช่วงเวลา จำนวนเงินที่สูญเสียไปแล้วเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง ไปจนถึงความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่สนใจลงทุนเอง

ใช้ตัวอย่าง “เรื่องของพี่จูน” เหมือนเดิม

โดยหากพี่จูนอายุยังไม่มาก มีประสบการณ์การลงทุนมาบ้าง การเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงก็สามารถช่วยตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนเพื่อการดาวน์บ้านที่ต้องการได้

แต่หากพี่จูนอายุมากขึ้น มีรายจ่ายในชีวิตเพิ่มมากขึ้น มีภาระที่ต้องผ่อนบ้าน หรือ ต้องการเพิ่มเป้าหมายการลงทุนเพื่อการเกษียณในระยะยาว พี่จูนก็สามารถเลือกจัดพอร์ตลงทุนใหม่ หรือ เลือกปรับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลง ทั้งนี้เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนสำหรับความจำเป็นอื่น ๆ แต่ยังสามารถลงทุนเพื่อเป้าหมายที่ต้องการได้เช่นกัน

  1. กระจายความเสี่ยงและเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม

พอร์ตการลงทุนที่ดี คือ มีความสมดุลทั้งในเรื่องของความเสี่ยง จำนวนสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน ไปจนถึงความยืดหยุ่นของพอร์ตลงทุนที่สามารถปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าควรจะเลือกสินทรัพย์ใดมาจัดพอร์ตลงทุนบ้าง ขอแนะนำให้เริ่มต้นพิจารณาจากรายละเอียดของสินทรัพย์ที่สนใจดูก่อน เริ่มตั้งแต่ความเสี่ยง การสร้างผลตอบแทน ไปจนถึงวิธีการลงทุนในแง่มุมต่าง ๆ

จากนั้น จึงมาพิจารณาถึงอัตราการสร้างผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่สนใจว่าสอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนมากแค่ไหน เงินลงทุนเพียงพอหรือไม่ และปัจจัยทางเศรษฐกิจสามารถส่งผลต่อการสร้างผลตอบแทนได้ในแง่มุมไหนบ้าง

สุดท้าย จึงนำรายละเอียดของสินทรัพย์ทุกแง่มุมมาเปรียบเทียบ เพื่อทำการกระจายความเสี่ยงให้สมดุล ไม่เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยอย่างเดียว หรือ เสี่ยงมากอย่างเดียว แต่ควรกระจายให้สมดุล เพื่อเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป

  1. ติดตามผลลัพธ์ พร้อมปรับปรุงพอร์ตลงทุนอย่างเหมาะสม

เมื่อเวลาผ่านไป สินทรัพย์แต่ละตัวที่เลือกจัดพอร์ตก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ไม่เท่ากัน ส่งผลให้สัดส่วนของพอร์ตลงทุนก็เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อาจได้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการ หรือ อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้โดยไม่รู้ตัว

ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงควรกำหนดพิจารณาสถานการณ์และผลลัพธ์การลงทุน เพื่อพิจารณาการปรับพอร์ตอย่างเหมาะสม เช่น เริ่มวางแผนขายสินทรัพย์การลงทุนที่มีสัดส่วนเกินที่กำหนดไว้ เพื่อบริหารความเสี่ยงและปรับสมดุลให้พอร์ตกลับมาอยู่ในสัดส่วนที่ตั้งใจเอาไว้

การปรับสมดุลพอร์ตลงทุนนี้ ขึ้นอยู่กับทั้งประสบการณ์การลงทุน เป้าหมายการลงทุนที่ต้องการ ไปจนถึงความเสี่ยงการลงทุนที่นักลงทุนแต่ละคนรับไหว ดังนั้น จึงควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยให้ดีก่อนตัดสินใจปรับพอร์ตลงทุนด้วยเช่นกัน
เข้าถึงการลงทุนยุคใหม่ จัดพอร์ตลงทุน “โทเคนดิจิทัล”

เข้าถึงการลงทุนยุคใหม่ จัดพอร์ตลงทุน “โทเคนดิจิทัล”

โทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ได้รับการรับรองตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยนักลงทุนสามารถลงทุนผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูงได้

โดย “โทเคนดิจิทัล” คือ หน่วยลงทุนที่นำสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถซื้อขายได้ โดยนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนจากการซื้อขายโทเคนดิจิทัลโดยใช้เงินทุนที่ไม่สูงมาก พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ผู้ออกโทเคนดิจิทัลกำหนดได้ ทั้งยังเข้าถึงการสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพจากหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม งานศิลปะ ไปจนถึงภาพยนตร์

ด้วยเหตุนี้ โทเคนดิจิทัลจึงถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่น่าจับตามอง เข้าถึงสินทรัพย์ที่น่าสนใจได้ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทุกระยะได้เช่นกัน

Kubix คือ ICO Portal หรือ ผู้ให้บริการเสนอขายโทเคนดิจิทัล ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีและซื้อขายโทเคนดิจิทัลได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย พร้อมเชื่อมต่อกับวอลเล็ทสินทรัพย์ดิจิทัล อีกทั้งยังมาพร้อมกับโปรเจกต์การลงทุนที่น่าสนใจเพื่อการสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพอีกมากมาย

จัดพอร์ตลงทุนเพื่ออนาคตตั้งแต่วันนี้ อย่าลืมเปิดบัญชีกับ Kubix พร้อมติดตามโปรเจกต์การลงทุนใหม่ที่จะช่วยให้คุณเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ 

 

บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการลงทุน นักลงทุนโปรดศึกษาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

โทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้


ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่ : 
➡ LINE Official: @Kubix (https://lin.ee/Jub58gd)
➡ Website: https://www.kubix.co

scroll top iconBack to top